ข้อมูลจะอ้างอิงตามการปลูกกัญชาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในประเทศประเทศสหรัฐอเมริกา การปลูกจะปลูกแบบระบบปิดซึ่งมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 55 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนถ้าปลูกระบบเปิด ราคาจะอยู่ที่ 5 – 10 ล้านบาทต่อไร่เท่านั้น
ส่วนถ้ามองในประเทศไทยซึ่งมีอุณหภูมิอากาศที่เหมาะสมนั้น สามารถปลูกในระบบเปิดได้เลยซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าหลายๆประเทศในโลกเลย
การคำนวณจะอ้างอิงตาม ราคาดอกกัญชา ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ดอกกัญชาระบบปิดปลูกในอาคารมีราคาขายอยู่ที่ 1,505 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ หรือ 107,004 บาทต่อกิโลกรัม
ดอกกัญชาในระบบเปิดมีราคาขายอยู่ที่ 708 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ หรือ 50,338.14 บาทต่อกิโลกรัม
กัญชา 1 ต้น สามารถออกดอกได้ประมาณ 500 กรัม ผลก็คือกัญชา 1 ต้นในระบบเปิด สามารถสร้างรายได้ประมาณ 20,000 – 25,000 บาทด้วยการมีกัญชาเพียง 1 ต้นเท่านั้น
ต้นกัญชาไทยเพียงต้นเดียวมีขนาดใหญ่และสูงสามารถออกดอกได้หนักถึง 1 กิโลกรัม และสามารถนำมาเป็นกัญชาอัดแท่งขายในตลาดมืดได้ราคาสูงถึง 10,000 บาทเพียงต้นเดียว
ถ้าลองคิดว่า 1 ไร่ปลูกกัญชา 6,400 ต้น ออกดอกต้นละ 1 กิโลกรัม ขายในตลาดมืดราคา 10,000 บาทต่อกิโลกรัม ก็จะสามารถสร้างรายได้มากถึง 64 ล้านบาทต่อไร่
ส่วนมูลค่าดอกกัญชาที่สหรัฐนั้นขายกันที่ 40,000 -50,000 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนตลาดมืดในไทยนั้นขายแค่ 10,000 บาทต่อกิโลกรัม ต่างกันหลายเท่าตัว ซึ่งถ้าหากไทยสามารถส่งออกตลาดโลกได้นับว่าไทยจะได้เปรียบประเทศอื่นในโลกมาก
แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายซึ่งกัญชาในประเทศไทยถูกจัดเป็นยาเสพติดชนิดที่ 5 ทั้งๆที่ไทยสามารถปลูกกัญชาที่ดีที่สุดในโลกได้ ซึ่งถ้าหากกัญชาไทยถูกกฎหมายจริงๆก็อาจจะสร้างมูลค่าให้กับประเทศอย่างมหาศาล